Privacy Policy
นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
ของ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จํากัด
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
ของ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จํากัด
บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จํากัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสําคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นรากฐานใน การสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือกับลูกค้าและคู่ค้า บริษัทจึง
ยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
และกฎเกณฑ์ทางการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ถูกจัดทําขึ้นเพื่อจัดให้มีวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่ เหมาะสมและมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมสําหรับการ
ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัททําการรวบรวม
ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายและกฎเกณฑ์ทางการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
1. นิยาม
บริษัท หมายถึง บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จํากัด
กลุ่มบริษัทแลนดี้ โฮม หมายถึง บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัทลูก บริษัทในเครือ หรือบริษัทในกลุ่ม กล่าวคือ บริษัท แลนดี้ กรุงเทพฯ จำกัด, บริษัท เทรนดี้ โฮม บิวเดอร์ จำกัด, บริษัท นิกโก้แพลนนิ่ง แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, บริษัท แคพพลัส จำกัด และบริษัทอื่นๆ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งบริษัทมีการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ไม่จํากัดเพียง ลูกค้า ผู้ถือหุ้น คู่ค้า ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนได้เสียกับบริษัท
ข้อมูล หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลซึ่งไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลระบบ ข้อมูลที่ตั้ง คุกกี้
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิด เห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่ง กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทํานองเดียวกัน ตามที่คณะกรรมการประกาศกําหนด
ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนําลักษณะเด่นทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ ทําให้สามารถยืนยันตัวตนของ บุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจําลองภาพใบหน้า ข้อมูลจําลองม่านตา หรือข้อมูลจําลองลายนิ้วมือ
ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เปิดเผยต่อสาธารณชน เช่น ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูลและรหัสการเข้าระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Credential) เช่น Facebook, Instagram, Twitter, Line และรูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ เพื่อเชื่อมต่อหรือเข้าสู่บริการใด ๆ ของบริษัท เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Account ID) สิ่งที่สนใจ (Interests) รายการที่ชอบ (Likes) และรายชื่อเพื่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ ผ่านการตั้งค่า บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทําไว้ให้ โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ที่มีอํานาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ซึ่งดําเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลตามคําสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดําเนินการใด ๆ ซึ่งกระทําต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บบันทึกจัดระบบ จัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณาใช้เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทําอื่นใด ซึ่งทําให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวางหรือผสมเข้าด้วยกัน การจํากัด การลบ หรือการทําลาย
แอปพลิเคชัน หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคําสั่งที่ใช้ควบคุมการทํางานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทํางานตามคําสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดยแอปพลิเคชัน (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่าส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็น ตัวกลางการใช้งานต่าง ๆ
IP Address หมายถึง สัญลักษณ์เชิงหมายเลขที่กําหนดให้แก่อุปกรณ์แต่ละชนิด เช่น คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องพิมพ์ ที่มีส่วนร่วมอยู่ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่ง ๆ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตโพรโทคอลในการสื่อสาร
คุกกี้ (Cookie) หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทส่งไปยังคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว
Log หมายถึง ข้อมูลที่เกิดจากการใช้งานแอปพลิเคชัน ซึ่งรวมถึงแหล่งกําเนิดต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานของแอปพลิเคชัน
ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดทําข้อมูลนิรนามแล้ว
สํานักงาน หมายถึง สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทตระหนักและให้ความสําคัญอย่างยิ่งกับสิทธิและความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทจะดําเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย การรักษาความลับ ตลอดจน การป้องกันมิให้มีการนําข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน โดย บริษัทจะดําเนินการตามวัตถุประสงค์และความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัทในเรื่องเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล
ส่วนบุคคลนั้น หรือตามที่กฎหมายกําหนดและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
2. วิธีที่ได้มา บริษัทมีการจัดเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วย กระบวนการต่อไปนี้
2.1 บริการอื่น ๆ นอกเหนือจากที่กําหนดในเว็บไซต์ของเรา เช่น สินค้าหรือบริการอื่น ๆ ซึ่งดําเนินการโดยเราหรือ
บริษัทในเครือซึ่งไม่ได้ระบุโดยชัดแจ้งว่าอยู่ภายใต้บังคับของนโยบายนี้
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทในเครือหรือบริษัทในกลุ่ม
2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่สาม เช่น ตัวแทน ร้านค้า หรือบริษัทที่ให้การบริการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล คู่ค้า พันธมิตร เป็นต้น
2.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากการเข้าเยี่ยมชมเว็ปไซต์ เช่น ชื่อของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และที่อยู่ไอพี (IP Address) ผ่านการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต วันที่และเวลาของการเข้าเยี่ยมชม
เว็บไซต์ หน้าเพจที่เข้าเยี่ยมชมขณะเข้าเว็บไซต์ และที่อยู่ของ
เว็บไซต์ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับเว็บไซต์ของบริษัท
2.5 พฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชัน โดยจะมีการเก็บ Log การใช้งานของท่านจากบนแอปพลิเคชันของทางบริษัท
2.6 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากข้อมูลสาธารณะ (Public Records) และที่ไม่ใช่สาธารณะ (Non-Public Records) ที่บริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวมได้ตามกฎหมาย
2.7 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วย
งานกํากับดูแลที่ใช้อํานาจตามกฎหมาย
3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
3.1 เพื่อการให้บริการการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่จะมีในอนาคต ตลอดจนการดูแล การบํารุงรักษา และการดําเนินการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการดังกล่าว
3.2 เพื่อการดําเนินธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท เช่น การบริการหลังการขาย, การชําระเงินจองปลูกสร้างบ้านผ่านระบบ Ecommerce เป็นต้น
3.3 เพื่อการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
3.4 เพื่อยืนยัน และ/หรือ ระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในการเข้าใช้บริการผ่านช่องทางต่าง ๆ หรือการติดต่อกับบริษัท
3.5 เพื่อการติดต่อสื่อสาร แจ้ง และ/หรือ รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากบริษัท หรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของบริษัท
3.6 เพื่อการดําเนินการตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้แจ้งไว้กับบริษัท
3.7 เพื่อการนําเสนอสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และ/หรือ บริการอื่น ๆ ของบริษัท อาทิ การให้คําแนะนํา และ/หรือ ข้อเสนอ
เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการ รวมถึงโปรโมชันต่าง ๆ ในการส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด รวมถึงการทําธุรกรรม
ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท
3.8 เพื่อการดําเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุง
หรือเปลี่ยนแปลงการบริการการวิเคราะห์การใช้งานด้าน
บริการ การสํารวจการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การพิจารณาการดําเนินงานและขยายธุรกิจของบริษัท
3.9 เพื่อการดําเนินการใด ๆ ที่จําเป็นและเหมาะสมในการ
3.9.1 ตรวจสอบและป้องกันการกระทําที่ละเมิดหรืออาจจะละเมิดต่อกฎหมาย
3.9.2 ตอบสนองต่อคําขอจากหน่วยงานรัฐหรือรัฐบาลรวมถึงหน่วยงานของรัฐหรือรัฐบาลต่างประเทศที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาศัยอยู่
3.9.3 บังคับใช้ข้อกําหนดในการให้บริการและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
3.9.4 ปกป้องการดําเนินธุรกิจของบริษัท
3.9.5 เยียวยา ป้องกัน หรือจํากัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
3.10 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวนของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานกํากับดูแล หรือเพื่อให้เป็นไปตามกฎ ข้อบังคับ หรือข้อผูกพันที่กฎหมายหรือภาครัฐกําหนด
ทั้งนี้วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการแจ้งเมื่อบริษัทมีการขอเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล อนึ่งในการได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมานั้น บริษัทจะเก็บ รวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ตาม ข้อ 3. เฉพาะเมื่อ
เข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้:
1. ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทตามกฎหมาย
2. เป็นการจําเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดําเนินการตามคําขอ ของท่านก่อนเข้าทําสัญญานั้น
3. เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
4. เป็นการจําเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดําเนินภารกิจ เพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือ ปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อํานาจที่รัฐได้มอบหมายให้แก่บริษัท
5. เป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ ประโยชน์ดังกล่าวมีความสําคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6. เป็นความจําเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
7. มีการจัดทําเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน
4. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ประเภทข้อมูล
วัตถุประสงค์
ในการประมวลผล
ในการประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ
อีเมล
ที่อยู่
ที่อยู่สำนักงาน
เบอร์โทรศัพท์
เลขที่บัตรประชาชน
หมายเลขหนังสือเดินทาง
วันเกิด
สัญชาติ
เพศ
การตั้งค่าต่าง ๆ
การตั้งค่าความปลอดภัยในบัญชีของท่าน
ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่มีการจัดเก็บเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์
หมายเลขบัตรเครดิต
ไอพี แอดเดรส (IP Address)
เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ท่าน อาจถูกร้องขอให้ลงทะเบียนกับบริษัท และ/หรือท่านอาจจำเป็นต้องแจ้งข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านให้กับบริษัท เพื่อวัตถุ ประสงค์ในการเก็บข้อมูลเพื่อการตลาด ของบริษัท เช่น
เพื่อติดต่อและเสนอบริการของ บริษัท หรือข้อเสนออื่น ๆ เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของกลุ่ม บริษัทแลนดี้ โฮม ซึ่งท่านอาจเคย แสดงถึงความสนใจไว้กับบริษัท
เพื่อแจ้งท่านเกี่ยวกับข่าวสาร ผลิตภัณฑ์ และจดหมายข่าว
เพื่อตรวจสอบตัวตนของท่าน
เพื่อรักษาความปลอดภัยต่อบัญชีผู้ใช้ของท่าน
เพื่อแจ้งท่านเกี่ยวกับการเปลี่ยน แปลงที่จะเกิดขึ้น
ข้อมูลบัตรเครดิตจะถูกจัดเก็บและถูกตรวจสอบผ่านทางระบบชําระเงินผ่านบุคคลที่สาม ข้อมูลนี้จะไม่ถูกจัดเก็บอย่างถาวรในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท และจะถูกลบทันที หลังจากผ่านระบบการตรวจสอบโดยระบบชําระเงินของบุคคลที่สาม เพื่อตรวจสอบตัวตนของท่าน
ข้อมูลพฤติกรรมการสืบค้น
ประเภทเบราเซอร์
โดเมน
เว็บไซต์ที่เยี่ยมชม
เวลาเข้าเว็บไซต์
ที่อยู่เว็บไซต์อ้างอิง
ข้อมูลเพื่อการสนับสนุนลูกค้า
Log
เพื่อให้ข้อมูลในการเข้าและใช้เว็บไซต์ รวมถึงแอปพลิเคชันของบริษัท
พื่อจัดการเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อการดำเนินการภายใน แก้ไขปัญหาของเว็บไซต์ วิเคราะห์ข้อมูล ทดสอบ วิจัย เพื่อความปลอดภัย การตรวจสอบ การบิดเบือน และการจัดการบัญชีผู้ใช้
เพื่อแก้ไขและสำรวจปัญหา
ข้อมูลระบบ
เพื่อให้ข้อมูลในการเข้าและใช้เว็บไซต์ของบริษัท เพื่อจัดการเว็บไซต์ เพื่อการดำเนินการภายใน แก้ไขปัญหาของเว็บไซต์ วิเคราะห์ข้อมูล ทดสอบ วิจัย เพื่อความปลอดภัย การตรวจสอบ การบิดเบือน และการจัดการบัญชีผู้ใช้
ข้อมูลที่ตั้ง
เว็บไซต์จะใช้ข้อมูลที่คุ้กกี้ได้เก็บรวบรวมเพื่อการวิเคราะห์ทางสถิติ หรือกิจกรรม อื่นของแลนดี้ โฮม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของแลนดี้ โฮม ต่อ ๆ ไป
คุ้กกี้
เว็บไซต์จะใช้ข้อมูลที่คุ้กกี้ได้เก็บรวบรวมเพื่อการวิเคราะห์ทางสถิติ หรือกิจกรรมอื่นของบริษัทเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของแลนดี้ โฮม ต่อ ๆ ไป
5. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
บริษัทจะทําการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้กับบริษัทโดยตรง
หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากการให้บริการหรือการดําเนินงานของบริษัทผ่านทุกช่องทาง
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการระบุตัวตนของบุคคลธรรมดา
บุคคลธรรมดาที่ระบุตัวตนได้ หมายความถึง บุคคลหนึ่งซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยเฉพาะเจาะจงโดยตรงหรือโดยอ้อม โดยอ้างอิงจากตัวบ่งชี้ใด ๆ เช่น
ชื่อ
อีเมล
ที่อยู่ / ที่อยู่สำนักงาน
เบอร์โทรศัพท์
เลขที่บัตรประชาชน
หมายเลขหนังสือเดินทาง
วันเกิด
สัญชาติ
เพศ
หมายเลขบัตรเครดิต
หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address)
ข้อมูลพฤติกรรมการสืบค้น หมายถึง ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องต่อบุคคลธรรมดาที่ระบุตัวตน ได้ เช่น ประเภทเบราว์เซอร์ โดเมน เว็บไซต์ที่เยี่ยมชม เวลาเข้าเว็บไซต์ ที่อยู่เว็บไซต์อ้างอิง ข้อมูลเพื่อการสนับสนุนลูกค้า โดยจะมีการเก็บ Log การใช้งานของท่านจากบนแอปพลิเคชันของทางบริษัท
ข้อมูลระบบ หมายถึง ข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บโดยอัตโนมัติเมื่อท่านล็อกอินเข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัท ไม่ว่าจะผ่านทางคุ้กกี้ เว็บบีคอน ไฟล์ล็อกอิน สคริปท์ รวมถึงข้อมูลทาง เทคนิค เช่น ที่อยู่ไอพี ประเภทของบราวเซอร์ โดเมน ประวัติเว็บไซต์ที่เยี่ยมชม เวลาการ เข้าใช้งาน ที่อยู่เว็บไซต์ที่อ้างอิง ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านค้นหาหรือที่ท่านดูในขณะที่ใช้ เว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงพฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชัน
ข้อมูลที่ตั้ง หมายถึง ข้อมูลที่ได้รับจากจีพีเอส ไวไฟ เข็มทิศ เครื่องวัดความเร่ง IP Address หรือโพสต์สาธารณะซึ่งระบุข้อมูลที่ตั้ง
คุ้กกี้ หมายถึง ข้อมูลที่ถูกวางในคอมพิวเตอร์ของท่านโดยเว็บเซิร์ฟเวอร์ หลังจากคุ้กกี้ ได้ถูกวางในคอมพิวเตอร์ของท่าน คุ้กกี้จะเก็บหรือจดจำข้อมูลของผู้ใช้จนกว่าผู้ใช้จะปิด บราวเซอร์นั้น หรือจนกว่าผู้ใช้จะลบหรือปฏิเสธคุ้กกี้ อย่างไรก็ตาม ท่านจะพบว่าจะเป็น การสะดวกในการนำทางการใช้เว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย เพราะคุ้กกี้จะช่วยเก็บข้อมูล เว็บไซต์ซึ่งท่านเยี่ยมชมหรือเปิดขึ้น
6. ระยะเวลาจัดเก็บ และสถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จําเป็น โดยคํานึงถึงวัตถุประสงค์และความจําเป็นที่บริษัทจะต้องดําเนินการจัดเก็บรวบรวมและประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกําหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับในเรื่องดังกล่าว
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่สัญญาที่ท่านได้ทําไว้กับบริษัทสิ้นผลบังคับระยะเวลาหนึ่ง และสอดคล้องตามระยะเวลาและอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทจําเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกําหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีอยู่ระหว่างการดําเนินคดีหรือพิจารณาคดีตามกฎหมาย เป็นต้น
ทั้งนี้บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตราการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม หมายความว่ามีการธํารงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และให้ข้อมูลอยู่ในลักษณะที่พร้อมใช้งาน (Availability) และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กําหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัท ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอํานาจ หรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจําเป็นและเหมาะสม
นอกจากนี้บริษัทยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัท มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับและมีความปลอดภัยตามมาตรการที่ บริษัทกำหนด เมื่อต้องมีการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
7. การเปิดเผยและถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก และ/หรือ องค์กรหรือหน่วยงานภายนอก เฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้
กลุ่มบริษัทที่มีความเกี่ยวข้อง และบริษัทในเครือของบริษัท: บริษัทจะแชร์หรือแบ่งปัน ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายในกลุ่มบริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จํากัด ซึ่งรวมถึง บริษัท แลนดี้ กรุงเทพฯ จำกัด, บริษัท เทรนดี้ โฮม บิวเดอร์ จำกัด, บริษัท นิกโก้แพลนนิ่ง แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, บริษัท แคพพลัส จำกัด และบริษัทอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
ผู้รับเหมา/คู่สัญญา: ในกรณีที่บริษัททําการจ้างผู้รับเหมาเพื่อดําเนินการใดอันจําเป็นที่จะต้องใช้
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น รหัสไปรษณีย์ การวิเคราะห์ทางสถิติ หรือกิจกรรมออนไลน์ เว็บไซต์
จะกําหนดให้ผู้รับเหมาในการดําเนินการนั้น เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และต้องห้ามมิให้ผู้รับเหมาใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากเพื่อสนับสนุนกิจกรรมหรืองานของแลนดี้ โฮม
ผู้ขาย/นายหน้า ในบางกรณี บริษัทอาจทําการแชร์ข้อมูลของท่านต่อผู้ขายหรือนายหน้าซึ่งได้รับอนุญาตเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง เช่น การประมวลผลบัตรเครดิต
หน่วยงานรัฐบาล รัฐบาล หรือองค์กรอื่นตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คําสั่ง
คําร้องขอ เพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย
ในกรณีที่บริษัทมีการโอนถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ บริษัทจะกำหนด มาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือ สัญญาร่วมธุรกิจกับหน่วยงานองค์กรที่จะได้รับข้อมูล ส่วนบุคคลนั้น มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย อาทิเช่น
กรณีที่บริษัทมีความจำเป็นในการจัดเก็บ และ/หรือ โอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการจัดเก็บ
การประมวลผลในระบบคลาวด์ (Cloud) บริษัทจะพิจารณาองค์กรที่มีมาตรฐานความ มั่นคงปลอดภัยในระดับสากล และจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบการเข้ารหัส หรือวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เป็นต้น
อนึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลภายนอกที่บริษัทจะทำการเปิด เผยข้อมูลส่วนบุคคลได้จากรายชื่อพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งนี้รายชื่อบุคคลภายนอกที่บริษัทจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ซึ่งบริษัทจะทำข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเสมอ
8. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ
ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือให้บริการของบริษัท หรือการดําเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทในบางกรณี บริษัทมีความจําเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับ เชื้อชาติ ศาสนา ปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ
ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพและข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งในกรณีนี้บริษัทจะแจ้งและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ เพื่อดําเนินการตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทต่อไป
9. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นและภายใต้ข้อกําหนดของกฎหมาย บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับโปรโมชันต่าง ๆ ทางไปรษณีย์ อีเมล และด้วยวิธีการอื่นใด รวมถึงการดําเนินการด้านการตลาดแบบตรง เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับจากการเป็นลูกค้าของบริษัทผ่านการแนะนําผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับการสื่อสารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดจากบริษัท ยกเว้นการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องและจําเป็น และ/หรือ บริการที่บริษัทได้ให้แก่ท่าน เช่น ใบแจ้งเตือนการชําระค่างวด
ใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น
10. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย และความลับของข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความมั่นใจในการบริหารจัดการของบริษัท ในการป้องกันความเสี่ยงอันอาจทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเข้าถึงโดยมิชอบ รั่วไหล ถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข สูญหาย บริษัทจึงได้สร้างความตระหนักด้านความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศที่เป็นที่ยอมรับ และการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ และเป็นไปตามที่กฎหมายกําหนด
บริษัทมีมาตรการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะกำหนดให้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ในการนำเสนอสินค้า ผลิตภัณฑ์ และเพื่อการให้บริการของ บริษัท เช่น พนักงาน ตัวแทน เอเจนซี โฆษณา ซึ่งบุคคลที่บริษัทอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วน บุคคลนั้น จะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท อย่างเคร่งครัด ตลอดจนการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยบริษัทมีมาตรการป้องกันทั้งทางกายภาพและทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่บังคับใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิของท่านเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายและนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น
สิทธิขอถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้ บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไร โดยปราศจากความยินยอมของท่าน
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่ สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และ สามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วย วิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
สิทธิขอคัดค้าน
ท่านมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป เฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผล ตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยัน การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่ละกรณี
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอม หรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบ ตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่ บริษัทหมดความจำเป็น และต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่ เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
สิทธิร้องเรียน
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โปรดดูข้อ 16. สำหรับรายละเอียดการติดต่อ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การใช้สิทธิ
การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้น สามารถทำได้โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิและ ยื่นคำร้องต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนิน การตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อ ประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหาก บริษัทปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วยระยะเวลา ดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ
สิทธิ
ระยะเวลาดำเนินการ
สิทธิขอถอนความยินยอม 7 วัน
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอคัดค้าน 30 วัน
สิทธิขอให้ลบหรือทําลายข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล 7 วัน
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอคัดค้าน 30 วัน
สิทธิขอให้ลบหรือทําลายข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล 7 วัน
อนึ่งการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือการยกเลิกความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สามารถทำได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายและสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทเท่านั้น ทั้งนี้การใช้สิทธิดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อกรณีการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัท หรือ กรณีการให้บริการอื่น ๆ เนื่องจากจะไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ จึงอาจเกิดข้อจำกัดในการให้บริการในบางส่วนที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และอาจทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ได้รับสิทธิประโยชน์การบริการ และข่าวสารจากบริษัทอีกต่อไป
12. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ภายนอก
เว็บไซต์ของบริษัทจะมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์เหล่านั้นอาจมี นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างจากของบริษัท ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์นั้น ๆ เพื่อเข้าใจถึงรายละเอียดการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อตัดสินใจในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม
13. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อตรวจสอบการดำเนินการที่เกี่ยวกับ การเก็บ รวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และ นโยบาย ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ของบริษัท รวมทั้งประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมีหน้าที่อื่น ๆ ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะมีการ แก้ไขเพิ่มเติมกำหนด
14. คำถามที่เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว
หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถ ติดต่อบริษัท และ/หรือ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังนี้
ชื่อบริษัท:
บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จํากัด
ที่อยู่:
เลขที่ 1 ชั้น 3, 8 ซอยลาดพร้าว 19 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
เว็บไซต์ของบริษัท:
https://www.landyhome.co.th
ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ของบริษัท
(Call Center):
02 938 3200
(Call Center):
15. ช่องทางการติดต่อ
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อ 11. ท่านสามารถติดต่อมายัง
ชื่อบริษัท:
บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จํากัด
ที่อยู่:
เลขที่ 1 ชั้น 3, 8 ซอยลาดพร้าว 19 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
เว็บไซต์ของบริษัท:
https://www.landyhome.co.th
ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ของบริษัท
(Call Center):
02 938 3200
(Call Center):
16. ติดต่อหน่วยงานผู้มีอํานาจ (Appropriate Authority)
หากท่านต้องการรายงานเรื่องร้องเรียน หรือหากท่านรู้สึกว่าบริษัทไม่ตอบข้อกังวลของท่านในลักษณะที่น่าพึงพอใจ ท่านสามารถติดต่อ และ/หรือ ร้องเรียนต่อสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามรายละเอียดด้านล่าง
โทรศัพท์:
02 142 1033
อีเมล:
pdpc@mdes.go.th
หรือส่งจดหมายมาที่:
120 หมู่ 3 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สํานักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210
17. การปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทขอสงวนสิทธิในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
ได้ในอนาคต ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ บริษัทจะประกาศให้ทราบผ่าน
เว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.landyhome.co.th